ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันนี้ (9 ก.ค.) ท่ามกลางความโล่งใจของนักลงทุน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นเพียง 25% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าและเป็นแรงส่งสำคัญที่หนุนหุ้นกลุ่มส่งออกทะยานขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,821.28 จุด เพิ่มขึ้น 132.47 จุด หรือ +0.33%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์
ภาวะเงินเยนอ่อนค่าส่งผลดีโดยตรงต่อบริษัทผู้ส่งออก เช่น กลุ่มยานยนต์ ซึ่งกลายเป็นที่ต้องการของนักลงทุน เนื่องจากจะทำให้กำไรในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเมื่อแลกกลับเป็นเงินเยน นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ก็ปรับตัวขึ้นหนุนตลาดเช่นกัน
มาซาฮิโระ อิชิคาวะ หัวหน้านักวางกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ ชี้ว่า "อัตราภาษี 25% นั้นต่ำกว่า 30% หรือ 35% ที่ปธน.ทรัมป์เคยพูดถึงก่อนหน้านี้มาก ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกโล่งใจในตลาด และรัฐบาลก็ยังมีช่องทางสำหรับการเจรจาต่อไป" ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.
อย่างไรก็ตาม อิชิคาวะเตือนว่า ตลาดยังขาดแรงส่งที่จะทะลุแนวต้านสำคัญที่ 40,000 จุดไปได้ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นอาจมีเวลาไม่เพียงพอในการเจรจา เพราะต้องพะวงกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค.นี้