ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ กลุ่มแบงก์-เฮลท์แคร์ถ่วงตลาด

ข่าวต่างประเทศ Saturday July 12, 2025 08:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์ถ่วงตลาดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป (EU) ยังรอจดหมายแจ้งจากทรัมป์เกี่ยวกับมาตรการภาษี

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 547.34 จุด ลดลง 5.59 จุด หรือ -1.01%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,829.29 จุด ลดลง 72.96 จุด หรือ -0.92%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,255.31 จุด ลดลง 201.50 จุด หรือ -0.82% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,941.12 จุด ลดลง 34.54 จุด หรือ -0.38%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลง 1% โดยยุติการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วัน และถือเป็นการร่วงลงรายวันรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน

ก่อนหน้านี้ EU ตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงการค้าแบบครอบคลุมกับสหรัฐฯ รวมถึงข้อตกลงยกเว้นภาษีสินค้าประเภทอุตสาหกรรม แต่หลังจากเจรจาอย่างยากลำบากมาหลายเดือน ก็เริ่มตระหนักว่าอาจต้องยอมรับข้อตกลงชั่วคราว และหวังว่าจะสามารถเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ในภายหลัง

นักวิเคราะห์รายหนึ่งคาดว่า ข้อตกลงจะได้รับการอนุมัติในวันพุธ ดังนั้นยิ่งเรื่องนี้ล่าช้านานเท่าใด ก็ยิ่งกังวลว่าทรัมป์จะไม่เห็นด้วย และ EU อาจถูกเก็บภาษีในระดับที่สูงขึ้นอีกครั้ง

เอชเอสบีซี (HSBC) ประเมินว่า หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปเป็น 10%-20% อาจทำให้รายได้รวมของดัชนี FTSE Europe ลดลง 1.2%-2.4% และกำไรสุทธิลดลงในช่วง 4.0%-6.0%

บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกได้รับผลกระทบ หลังทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาในอัตรา 35% เริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค. และเสนอแนวคิดเก็บภาษีอัตรา 15% หรือ 20% ต่อประเทศอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจากอัตราฐานปัจจุบันที่ 10%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.8% โดยหุ้นธนาคารดีเอ็นบี (DNB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ ร่วงลง 8.8% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาดการณ์ จากรายได้ดอกเบี้ยที่อ่อนแอกว่าคาด และหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 12% ในดัชนี STOXX ก็เผชิญแรงขายอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ของเดนมาร์ก ร่วงลง 3.6%

แต่กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยหุ้นบีพี (BP) พุ่งขึ้น 3.4% หลังบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษระบุว่า ผลิตภัณฑ์ฝั่งต้นน้ำในไตรมาส 2 จะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

แม้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันศุกร์ แต่ดัชนีหุ้นหลักส่วนใหญ่ของยุโรปยังคงปิดตลาดสัปดาห์นี้บวกกว่า 1% โดยกลุ่มยานยนต์และกลุ่มเหมืองแร่เป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ขณะที่กลุ่มโทรคมนาคมอ่อนแอที่สุด

นักลงทุนทั่วโลกต่างอยู่ในภาวะตึงเครียด หลังทรัมป์ขยายวงสงครามการค้าตลอดสัปดาห์ โดยตั้งกำแพงภาษีใหม่กับหลายประเทศ รวมถึงการเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ