ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (14 ก.ค.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (11 ก.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ดี การร่วงลงยังไม่หนักมากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่าการเจรจาภาษีระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ จะมีความคืบหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,459.62 จุด ลดลง 110.06 จุด หรือ -0.28%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่กลุ่มสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มขนส่งทางอากาศ และกลุ่มขนส่งทางบก
ต้นตอของแรงกดดันครั้งนี้มาจากการประกาศของปธน.ทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนอยู่บ้าง หลังจากทรัมป์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ญี่ปุ่นและคู่ค้าสำคัญรายอื่น ๆ กำลังเปลี่ยนท่าทีในการเจรจา "อย่างรวดเร็วมาก ๆ" ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาเชื่อว่าข้อตกลงต่าง ๆ อาจมีความคืบหน้าในเร็ว ๆ นี้
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ ให้ความเห็นว่า "แม้ว่าทรัมป์จะใช้ท่าทีแข็งกร้าวเรื่องนโยบายภาษีมาตลอด แต่คำพูดล่าสุดของเขาก็ช่วยจุดประกายความหวังว่าการเจรจาระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ อาจมีความคืบหน้า"
นอกจากนี้ บรรดาโบรกเกอร์ชี้ว่า นักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการเลือกตั้งสภาสูง (House of Councillors) ที่กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์นี้ (20 ก.ค.) เพราะต่างกังวลว่า หากพรรครัฐบาลผสมชุดปัจจุบันพ่ายแพ้จนสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูงไป อาจสั่นคลอนเสถียรภาพทางการคลังของประเทศยิ่งกว่าเดิม