ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง
ณ เวลา 00.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,134.60 จุด บวก 111.31 จุด หรือ 0.25%
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด ทันทีที่มีข่าวลือที่ว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในแดนบวก หลังปธน.ทรัมป์ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว
ปธน.ทรัมป์กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า เขาไม่มีแผนที่จะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด
"เราไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก" ปธน.ทรัมป์กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเปิดเผยต่อสำนักข่าว CNBC ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แจ้งต่อสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันว่า เขาจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หลังจากได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคต่อการดำเนินการดังกล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (15 ก.ค.) ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว
"ท่านประธานาธิบดีสอบถามสมาชิกรัฐสภาว่ารู้สึกอย่างไรหากมีการปลดประธานเฟด ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ต่างแสดงความเห็นให้การสนับสนุน และประธานาธิบดีก็ได้ส่งสัญญาณว่าท่านอาจจะดำเนินการในเร็ว ๆ นี้" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าว
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ถึงขั้นร่างจดหมายปลดนายพาวเวลไว้แล้ว และได้นำไปให้สมาชิกรัฐสภาดูในที่ประชุมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัด และการปลดนายพาวเวลอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที
ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์และทีมงานในทำเนียบขาวได้โจมตีนายพาวเวลในหลายประเด็น เพื่อกดดันให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยล่าสุด พวกเขาได้วิพากษ์วิจารณ์ต่อการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดในกรุงวอชิงตัน จนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าปธน.ทรัมป์อาจพยายามหาข้ออ้างในการปลดนายพาวเวล
อย่างไรก็ดี คำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อไม่นานมานี้ บ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจปลดเจ้าหน้าที่เฟดตามอำเภอใจ
ด้านนายเฟรนช์ ฮิลล์ ประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC ว่า "ผมไม่คิดว่าปธน.ทรัมป์จะปลดนายพาวเวล"
ส่วนนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กเช่นกันว่า เขาไม่คาดว่าปธน.ทรัมป์จะดำเนินการเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม นางแอนนา พอลินา ลูน่า ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ขัดขวางร่างกฎหมายคริปโทฯวานนี้ ได้โพสต์ข้อความบน X ว่า การปลดนายพาวเวลกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
"ได้ยินมาว่าเจอโรม พาวเวล กำลังจะถูกปลด! จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ดิฉันมั่นใจ 99% ว่าการปลดจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้"ด้านนายพาวเวลเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า "กฎหมายไม่อนุญาตให้มีการปลดประธานเฟด"
ทั้งนี้ ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดพยายามปลดผู้ว่าการเฟด แม้ว่าเคยมีการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำเฟดก็ตาม
ปธน.ทรัมป์เป็นผู้เสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ย.2561 ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยวุฒิสภาให้ความเห็นชอบนายพาวเวลในเดือนก.พ.2562 แต่เขาก็ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากปธน.ทรัมป์ทั้งในช่วงสมัยแรกและสมัยที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในช่วงแรก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคธนาคาร รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเพิ่มโอกาสของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, มอร์แกน สแตนลีย์, โกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ป ต่างเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2568
นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังการเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 56.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 54.5% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมิ.ย. หรือปรับตัว 0.0% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัว 0.3% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 3.2% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมิ.ย. หรือปรับตัว 0.0% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัว 0.4% ในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ ในคืนนี้
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานซึ่งจะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเป็นการประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตของสหรัฐ
นอกจากนี้ Beige Book เป็นรายงานที่มีการรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง