ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 542.40 จุด ข้อมูลจ้างงานอ่อนแอ-ภาษีทรัมป์รอบใหม่ฉุดตลาด

ข่าวต่างประเทศ Saturday August 2, 2025 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงกว่า 500 จุดในวันศุกร์ (1 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเกินคาด และการประกาศกำหนดภาษีนำเข้ารอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,588.58 จุด ลดลง 542.40 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,238.01 จุด ลดลง 101.38 จุด หรือ -1.60% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,650.13 จุด ลดลง 472.32 จุด หรือ -2.24%

ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. ส่วน Nasdaq ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.92%, ดัชนี S&P500 ลดลง 2.36% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.17%

ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงถึง 8.3% ของหุ้น Amazon หลังผลประกอบการรายไตรมาสของธุรกิจคลาวด์ Amazon Web Services ต่ำกว่าความคาดหวังของตลาด

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเส้นตายการใช้ภาษีในวันศุกร์ ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากหลายประเทศ เช่น แคนาดา บราซิล อินเดีย และไต้หวัน ในความพยายามกดดันเพื่อให้ได้ข้อตกลงการค้าที่ดีขึ้น

ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันศุกร์ระบุว่า การจ้างงานในเดือนก.ค. ขยายตัวต่ำกว่าคาด และตัวเลขของเดือนมิ.ย.ยังถูกปรับลดลงอย่างมาก ซึ่งสะท้อนว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอ

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 125,000 ตำแหน่ง

บรรดานักลงทุนเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนก.ย. โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% นั้น ได้เพิ่มขึ้นจาก 37.7% มาอยู่ที่ 86.5%

ดัชนี CBOE Volatility Index หรือ "ดัชนีความกลัว" ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปิดเพิ่มขึ้น 3.66 จุด มาที่ 20.38 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.

หุ้น Amazon ถ่วงตลาดมากที่สุด และยังฉุดให้ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงเกือบ 3.6% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวแย่ที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500

Apple รายงานผลประกอบการเช่นกัน โดยราคาหุ้นร่วงลง 2.5% แม้คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ซีอีโอ ทิม คุก เตือนว่า ภาษีของสหรัฐฯ จะเพิ่มต้นทุนถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว

ตลาดยังร่วงลงหลังจากทรัมป์ประกาศว่าได้สั่งปลด เอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ หัวหน้าสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน

นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยว่า เอเดรียนา คุกเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟดจะลาออกก่อนกำหนดในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดทางให้ทรัมป์แต่งตั้งผู้ว่าการเฟดคนใหม่ ในขณะที่เขากำลังกดดันให้ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ