ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (4 ส.ค.) โดยดีดตัวขึ้นจากแรงขายเมื่อวันศุกร์ และได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 9,128.30 จุด เพิ่มขึ้น 59.72 จุด หรือ +0.66%
ดัชนี FTSE 100 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงแรงที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 2.3% หลังศาลฎีกาอังกฤษมีคำตัดสินพลิกคำพิพากษาเดิมในคดีค่าคอมมิชชันจากการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเงินชดเชยที่บางฝ่ายเคยประเมินว่าจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านปอนด์เริ่มคลี่คลาย
หุ้น Lloyds Banking Group พุ่งขึ้น 9% แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่หุ้น Close Brothers พุ่งขึ้นถึง 23.5% และหุ้น Barclays เพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าปรับขึ้นมากที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเพิ่มขึ้น 2.6% ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ส่วนหุ้นกลุ่มอากาศยานและอาวุธป้องกันประเทศก็ปรับขึ้น 1.8% โดยหุ้น Rolls-Royce ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดในดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 2.3%
หุ้น BP ปรับตัวขึ้น 1.8% หลังบริษัทเปิดเผยว่าได้ค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งบราซิลที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 25 ปี
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 4.25% เหลือ 4% ในวันพฤหัสบดีนี้ (7 ส.ค.) และอาจลดลงอีกครั้งก่อนสิ้นปี แม้อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.เร่งตัวขึ้นจนเกือบแตะสองเท่าของเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางก็ตาม
ขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ถูกปรับทบทวนลงอย่างมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลดหัวหน้าสำนักงานสถิติแรงงาน ยิ่งเพิ่มความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ