ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น ต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นกว่า 500 จุดวานนี้
ณ เวลา 20.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,241.48 จุด บวก 67.84 จุด หรือ 0.15%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความใน Truth Social แสดงความยินดีต่อการที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นวานนี้ (4 ส.ค.) พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อไป และเศรษฐกิจสหรัฐจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
"เป็นวันที่ดีในตลาดหุ้น (ดาวโจนส์ +585.06 จุด หรือ 1.34%, S&P 500 +91.93 จุด หรือ 1.47%, NASDAQ +403.45 จุด หรือ 1.95%) และจะมีวันแบบนี้อีกมาก อเมริกากำลังร่ำรวยมากขึ้นอีกครั้ง และแข็งแกร่งกว่าในอดีต ขอบคุณที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้!" ปธน.ทรัมป์ระบุทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นวานนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ แม้สถิติบ่งชี้ว่า เดือนส.ค.เป็นเดือนที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวย่ำแย่เป็นอันดับ 2 ของปี
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 63.1% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค. และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหม่ต่อชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในเร็ว ๆ นี้ โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
"เรากำลังจะประกาศเรื่องชิปและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหมวดแยกต่างหาก เพราะเราต้องการให้มันถูกผลิตในสหรัฐ โดยการประกาศนี้จะมีขึ้นภายในสัปดาห์หน้า" ปธน.ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ยาที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐ อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 250% ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีสูงสุดที่ปธน.ทรัมป์ขู่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจนถึงขณะนี้
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเริ่มต้นด้วยการเก็บ "ภาษีศุลกากรเพียงเล็กน้อย" สำหรับยา แต่ภายในระยะเวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง "เป็นอย่างมากที่สุด" เขาจะเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวสู่ระดับ 150% และจากนั้นเป็น 250%
"เราต้องการให้ยาถูกผลิตในประเทศของเราเอง" ปธน.ทรัมป์กล่าว