ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (22 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน หลังจาก เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ระหว่างที่เขากล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 561.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.23 จุด หรือ +0.40%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,969.69 จุด เพิ่มขึ้น 31.40 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,363.09 จุด เพิ่มขึ้น 69.75 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,321.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือ +0.13%
ดัชนี STOXX 600 ปิดใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดในแดนบวก
คำกล่าวของพาวเวลเปิดโอกาสสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดวันที่ 16-17 ก.ย. แต่ก็ยังให้น้ำหนักอย่างมากกับรายงานการจ้างงานและเงินเฟ้อที่จะประกาศก่อนการประชุมดังกล่าว โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 90% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. เทียบกับประมาณ 75% ก่อนหน้าพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ว่าเฟดกำลังเตรียมปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดหวัง สร้างบรรยากาศที่คึกคัก ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อเฟดมีท่าทีผ่อนคลาย จะเป็นผลบวกต่อตลาดการเงินโลก
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดเพิ่มขึ้น 1.6% ตามทิศทางราคาทองแดงที่แตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวล ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภค เช่น กลุ่มรถยนต์ รวมถึงหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ ปรับขึ้น 1.4% และ 1.3% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มประกันปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.6%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ยังคงมีมุมมองที่เป็นกลางต่อตลาดหุ้นในยูโรโซน เนื่องจากตลาดยุโรปยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระยะสั้น พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตของผลกำไรในปีนี้ลงเหลือ -3% จากเดิม 0%
ความคืบหน้าในการยุติสงครามในยูเครนชะงักงัน โดยตลาดรอความชัดเจนเพิ่มเติม หลังจากความหวังในช่วงแรกจากการเจรจาของรัสเซียและยูเครนกับสหรัฐฯ เริ่มเลือนหาย ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า หากใช้เวลานานขึ้น โอกาสที่จะไม่สามารถบรรลุสันติภาพถาวรย่อมเพิ่มขึ้น และอาจกดดันตลาดยุโรปในระยะข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 2/2568 มากกว่าที่รายงานก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ได้แรงหนุนจากหุ้น AkzoNobel ผู้ผลิตสี Dulux ที่พุ่งขึ้น 6.8% นำดัชนี STOXX 600 หลังจาก Cevian Capital นักลงทุนเชิงรุก เข้าถือหุ้น 3% ตามการยื่นรายงานต่อ AFM ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเนเธอร์แลนด์
หุ้น Standard Chartered พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากธนาคารประกาศว่าได้รับคำตัดสินที่เป็นผลดีจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในคดีแพ่งที่ยืดเยื้อมายาวนาน
ด้านหุ้นธนาคารในโปแลนด์ร่วงลง หลังจากกระทรวงการคลังเสนอให้ขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคการเงิน โดย PKO BP และ Pekao ร่วงลง 12.2% และ 11.2% ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการร่วงลงรายวันมากที่สุดของหุ้น PKO นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565