ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุด หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า ราคาสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ กำลังอยู่ในระดับสูง
ณ เวลา 01.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 46,271.45 จุด ลบ 110.09 จุด หรือ 0.24%
ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้นำภาคธุรกิจที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) ในวันนี้ นายพาวเวลได้รับคำถามที่ว่า เขาและคณะกรรมการเฟดให้ความสำคัญต่อราคาตลาดมากน้อยเพียงใด และมีความอดทนต่อมูลค่าที่สูงขึ้นหรือไม่
นายพาวเวลตอบว่า "เรามองไปที่สถานการณ์ด้านการเงินโดยรวม และเราจะถามตัวเองว่านโยบายของเรากำลังส่งผลต่อสถานการณ์การเงินในแนวทางที่เราพยายามบรรลุหรือไม่ แต่คุณพูดถูก หากดูจากมาตรวัดหลายตัว เช่น ราคาหุ้น กำลังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงทีเดียว"
ในช่วงก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ ต่างพุ่งขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าคณะกรรมการ FOMC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และหลังจากที่ FOMC ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 17 ก.ย. ตลาดหุ้นยังคงพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายพาวเวลกล่าวเพิ่มเติมว่า "ตลาดฟังเราและติดตามเรา จากนั้นพวกเขาก็จะคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไปทางไหน และนำสิ่งนั้นไปสะท้อนในราคาหุ้น"
อย่างไรก็ดี แม้นายพาวเวลยอมรับว่าราคาหุ้นอยู่ในระดับสูง แต่เขาย้ำว่า "นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินอยู่ในระดับสูง"
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงแรก ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของเฟดในปีนี้