ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร (23 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ และข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,223.32 จุด ลดลง 3.36 จุด หรือ -0.04%
ผลสำรวจพบว่ากิจกรรมทางธุรกิจของอังกฤษชะลอตัวในช่วงต้นเดือนก.ย. โดยบริษัทต่าง ๆ รายงานถึงภาวะชะลอตัวและความเชื่อมั่นที่ลดลง เนื่องจากความเสี่ยงที่จะมีการขึ้นภาษีในช่วงปลายปีนี้
ก่อนหน้านี้ รายงานเมื่อวันศุกร์ระบุว่าชาวอังกฤษมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นในเดือนนี้ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นภาษีในการแถลงงบประมาณเดือนพ.ย.จากราเชล รีฟส์ รมว.คลังอังกฤษยิ่งสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4% และระบุว่ากำลังติดตามสัญญาณแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจเริ่มคลี่คลาย ก่อนจะพิจารณาลดดอกเบี้ยอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวลง 1.7% โดยหุ้น Oxford BioMedica ร่วง 6.5% หลังผู้ผลิตเซลล์และยีนบำบัดของอังกฤษรายนี้รายงานผลประกอบการครึ่งปี
นักลงทุนยังจับตาบริษัท GSK หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขอให้บรรดาบริษัทยาเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต leucovorin ซึ่งเป็นกรดโฟลิกชนิดหนึ่งเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยออทิสซึมบางราย โดย GSK เคยผลิตและจำหน่ายยานี้ภายใต้ชื่อ Wellcovorin โดยหุ้น GSK ร่วงลง 1.1%
แต่หุ้นค้าปลีกช่วยพยุงตลาด โดยดัชนีหุ้นค้าปลีกปรับตัวขึ้นราว 3.3% จากการพุ่งขึ้น 14.6% ของหุ้น Kingfisher หลังผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ปรับปรุงบ้านรายนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรตลอดทั้งปีจากผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้ หุ้นผู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่น ๆ ก็ขยับขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น JD Sports Fashion เพิ่ม 1.7%, หุ้น Frasers บวก 3% และ หุ้น Howden Joinery เพิ่มขึ้น 2.3%