ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (26 ก.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด หรือ +0.78%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,870.68 จุด เพิ่มขึ้น 75.26 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,739.47 จุด เพิ่มขึ้น 204.64 จุด หรือ +0.87% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,284.83 จุด เพิ่มขึ้น 70.85 จุด หรือ +0.77%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 0.07% โดยตลาดหุ้นสเปนปรับตัวดีกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค โดยเพิ่มขึ้น 1.3% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์
หุ้น Munich Re ของเยอรมนี และหุ้น SCOR ของฝรั่งเศส นำหุ้นกลุ่มประกันยุโรปพุ่งขึ้น 2.1% ยุติการร่วงติดต่อกันสามวัน ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุเพิ่มขึ้น 1.1% โดยหุ้น Kingspan ของไอร์แลนด์บวก 1.2% หลังโบรกเกอร์ Citigroup ปรับราคาเป้าหมายสูงขึ้น
หุ้นผู้ผลิตเหล็กปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังสื่อ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปมีแผนเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจากจีนในอัตรา 25% ถึง 50%
หุ้น ArcelorMittal ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับสองของโลกพุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้น Aperam พุ่งขึ้น 2.2%, หุ้น Thyssenkrupp ของเยอรมนีพุ่ง 3.5% และหุ้น Salzgitter พุ่ง 5.2%
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปิดทรงตัว โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีรอบใหม่ รวมถึงการเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับยาที่มีแบรนด์
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถบรรทุกหนัก ซึ่งกดดันหุ้น Daimler Truck และ Traton ร่วงลงมากกว่า 2%
หุ้น InterContinental Hotels Group ของอังกฤษบวก 4% หลัง JPMorgan ปรับคำแนะนำลงทุนจากระดับ underweight เป็น overweight
หุ้น Lufthansa พุ่งขึ้น 1.6% หลังมีรายงานว่า สายการบินนี้เตรียมประกาศปลดพนักงานหลายพันตำแหน่งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (29 ก.ย.)