ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดบวกในวันนี้ (2 ต.ค.) โดยนิกเกอิสามารถหยุดการดิ่งลงที่ดำเนินมา 4 วันติดต่อกันได้สำเร็จ เพราะมีแรงหนุนจากนักลงทุนที่เข้าช้อนซื้อหุ้นช่วงราคาตก แต่ภาพรวมตลาดยังถูกถ่วงด้วยหุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนตัวลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 44,936.73 จุด เพิ่มขึ้น 385.88 จุด หรือ +0.87%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มเภสัชภัณฑ์ และกลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก ขณะที่หุ้นลบนำโดยกลุ่มพลังงานไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงกลุ่มบริการ
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้น หลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงหนักไปกว่า 1,200 จุดตลอด 4 วันทำการก่อนหน้า
นอกจากนี้ ดัชนีนิกเกอิยังได้ปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดีดตัวขึ้นอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดโดยรวม เพราะความหวังเรื่องผลกำไรของธนาคารลดลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่นที่ปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกบางส่วนก็เผชิญแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า "ดัชนีนิกเกอิยังขาดแรงส่งหรือปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะผลักดันให้ดัชนีฟื้นตัวกลับไปถึงระดับ 46,000 จุดได้"
อิชิกาวะกล่าวเสริมว่า กรณีที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการ (ชัตดาวน์) อาจกระทบต่อการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ๆ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน "ซึ่งจะทำให้นักลงทุนขาดข้อมูลสำคัญสำหรับใช้คาดการณ์ทิศทางนโยบายของเฟด และจะกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน" ทั้งยังมีความกังวลว่าการปิดทำการอาจยืดเยื้ออีกด้วย