ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ รวมทั้งดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq ฟิวเจอร์ ยังคงปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลต่อการที่สหรัฐกำลังเผชิญภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ โดยการชัตดาวน์ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 36 ในวันนี้ (5 พ.ย.) ซึ่งยาวนานกว่าสถิติเดิม 35 วันที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งสมัยแรก
ณ เวลา 18.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 14 จุด หรือ 0.03% สู่ระดับ 47,200 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq ฟิวเจอร์ ลบ 0.28% และ 0.49% ตามลำดับ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ร่วงลงกว่า 200 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งลงกว่า 1% และดัชนี Nasdaq รูดลงกว่า 2% โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ต่างดิ่งลง นำโดยหุ้น Palantir Technologies บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งทรุดตัวลง 8% ขณะที่นักลงทุนเริ่มกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่แพงเกินจริง
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาศาลฎีกาสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดทำการไต่สวนในวันนี้ (5 พ.ย.) ต่อคดีที่ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังจากที่ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้เพิกถอนมาตรการภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของเขา โดยระบุว่า ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) ปี 1977
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตลาดการเงินก็อาจเกิดความปั่นป่วน โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรสหรัฐ เพราะรัฐบาลอาจต้องคืนเงินภาษีมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ที่เก็บไปแล้ว และจะสูญเสียรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP รวมทั้งดัชนีภาคบริการจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ในวันนี้