-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลงในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากที่ปิดแดนบวกมาสองวันติดต่อกัน โดยภาวะการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ถูกกดดันจากข้อมูลยอดส่งออกของจีนในเดือนต.ค. ที่ลดลงสวนทางคาดการณ์ ขณะที่การนำเข้าชะลอตัวลงอย่างมาก นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังถูกเทขายตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าสูงเกินจริงและอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดที่ระดับ 3,997.56 จุด ลดลง 10.20 จุด หรือ -0.25%
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจีนเผยยอดส่งออกลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 26,241.83 จุด ลดลง 244.07 จุด หรือ -0.92%
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ (7 พ.ย.) โดยเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จนทรุดตัวหลุดแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 50,000 จุดไปชั่วขณะ ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนว่าตลาดได้ทะยานขึ้นมาร้อนแรงเกินไปในระยะเวลาอันสั้น
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 50,276.37 จุด ลดลง 607.31 จุด หรือ -1.19%
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงในวันนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าสูงเกินจริงและอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอาจกลับมาปะทุอีกครั้ง
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ระดับ 3,953.76 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือ -1.81%
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดลดลงในวันนี้ (7 พ.ย.) และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยนักลงทุนเริ่มลดความคาดหวังว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบวัฏจักรนโยบายดอกเบี้ยในปัจจุบัน หลังจากที่ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 พ.ย.)
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 8,769.70 จุด ลดลง 58.60 จุด หรือ -0.66% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 9,031.70 จุด ลดลง 66.90 จุด หรือ -0.74%