ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) หลังจากปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วัน โดยข้อมูลยืนยันว่าเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวในอัตราที่เชื่องช้าในไตรมาส 3
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,865.97 จุด ลดลง 31.45 จุด หรือ -0.32%
ข้อมูลทางการระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเติบโตเพียง 0.1% ในไตรมาส 3 สอดคล้องกับที่ประเมินไว้ ขณะที่การเติบโตในช่วง เม.ย.-มิ.ย. ถูกปรับลดลงเหลือ 0.2% จากเดิม 0.3% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่า ภาษีที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูง กำลังกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้การใช้จ่ายของครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นและการออมลดลงก็ตาม
ขณะเดียวกัน เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ได้ขอให้ Office for Budget Responsibility จัดทำและเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและการคลังฉบับระหว่างกาลในวันที่ 3 มี.ค.
ในกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานปรับตัวแย่กว่าตลาด โดยหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มร่วงลง 2.8% หุ้น Diageo ผู้ผลิตสุรารายใหญ่ ร่วงลง 3.6% หลัง Bernstein ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 2,310 เพนนี จาก 2,420 เพนนี
หุ้นเหมืองทองคำช่วยจำกัดแรงขาย โดยได้แรงหนุนจากราคาทองคำที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 4,440.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หุ้น Endeavour Mining และหุ้น Fresnillo ปรับขึ้นในช่วง 1.9-2.8%
แม้ดัชนีจะอ่อนตัวลงในวันจันทร์ แต่ FTSE 100 ยังมีแนวโน้มทำผลงานรายปีดีที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยปรับขึ้นแล้ว 20.7% นับตั้งแต่ต้นปี ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มกลาโหมและการเงิน ขณะที่ดัชนี S&P 500 ของตลาดวอลล์สตรีทปรับขึ้น 16.2% ในช่วงเดียวกัน
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Rank Group ร่วงลง 5.1% หลังบริษัทเกมจากอังกฤษเปิดเผยว่า หน่วยธุรกิจในสเปนตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงการชำระเงิน มูลค่า 7.1 ล้านยูโร หรือราว 8.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยทั่วไป ปริมาณการซื้อขายมักจะลดลงในช่วงปลายปี เนื่องจากนักลงทุนหยุดการซื้อขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และตลาดจะปิดทำการในวันที่ 25 และ 26 ธ.ค.