สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 47.23 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 14,731.28 จุด
โบรกเกอร์กล่าวว่า หลังจากที่ดัชนีนิกเกอิร่วงลงไปเกือบ 150 จุดในระหว่าง ดัชนีก็สามารถลดช่วงลบได้บ้างก่อนที่ตลาดจะปิดทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน และแรงซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิไม่สามารถดีดขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อล็อตใหญ่ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 47.7 จากดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายของเดือนมิ.ย.ที่ 48.2
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
หุ้นคาโอ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วงลง 6.2% หลังจากมีรายงานว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท คาเนโบ คอสเมติคส์ อิงค์ ในห้างสรรพสินค้าและร้านขายยา ปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากการเรียกคืนสินค้าประเภทที่ทำให้ผิวขาวของคาเนโบ
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง นำโดยหุ้นโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ ร่วงลง 1.8% หลังจากบริษัทออกมายอมรับในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า น้ำที่ปนเปื้อนได้ซึมออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิ และไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก