ดร. หม่อง หม่อง เตียน รมช.คลังเมียนมาร์ กล่าวในการเจรจาทางธุรกิจงานหนึ่งในนครย่างกุ้ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า การเปิดตลาดหุ้นแห่งแรกของประเทศจะยังคงดำเนินไปตามขั้นตอน ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศ เนื่องจากตลาดหุ้นมีความจำเป็นสำหรับประเทศ
จากการเปิดเผยของดร.หม่อง หม่อง เตียนนั้น คาดว่าตลาดหุ้นแห่งแรกและแห่งเดียวของเมียนมาร์จะเริ่มทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนอย่างน้อย 5 แห่ง โดยจะมีการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนในพิธีเปิด รวมถึงวันที่บริษัทจะเริ่มขายหุ้น
โดยบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้จะถูกจำกัดให้สามารถขายหุ้นของบริษัทให้แก่อีกหนึ่งบริษัทเท่านั้น
รายงานระบุว่า ในเบื้องต้นนั้น บริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 10 แห่งได้รับคัดเลือกให้ทำการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นย่างกุ้ง ซึ่งบริษัทที่จะนำหุ้นออกขายในตลาดเมื่อเริ่มเปิดดำเนินการนั้น จะรวมถึงธนาคารรายใหญ่ของเมียนมาร์อย่าง Asia Green Development Bank (AGD), Myanmar Agribusiness Public Corporation (MAPCO) และ First Myanmar Investment Co., Ltd. (FMI)
รมช.คลังเมียนมาร์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ด้วยนั้น ได้เรียกร้องให้บริษัทต่างๆดำเนินความพยายามร่วมกันเพื่อพัฒนาตลาดหุ้น ขณะเดียวกันก็เตือนว่า ไม่รับประกันว่าบริษัทที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนจะสามารถทำกำไรได้ภายใน 5 ปีแรก
เขากล่าวว่า ตลาดหุ้นย่างกุ้งจะเริ่มต้นจากการซื้อขายหุ้น ก่อนจะขยายเป็นตลาดอนุพันธ์และตลาดล่วงหน้าต่อไป
ทั้งนี้แรกเริ่มเดิมทีนั้น ตลาดหุ้นย่างกุ้ง ซึ่งมีชื่อย่อว่า YEX มีกำหนดเปิดทำการในเดือนตุลาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนธันวาคม เพื่อเปิดทางให้กับการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศ ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นย่างกุ้งจะดำเนินการโดยเมียนมาร์ อีโคโนมิก แบงก์ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) และไดวา ซีเคียวริตีส์ กรุ๊ป
การซื้อขายหุ้นจะทำในสกุลเงินท้องถิ่น ขณะที่การซื้อหุ้นโดยนักลงทุนนั้นไม่จำกัด แต่การลงทุนที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติจะถูกตรวจสอบ
เมียนมาร์ประกาศใช้กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกรกฎาคม 2556 เพื่อปูทางสู่การเปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้อนุมัติใบอนุญาตในการให้บริการ 4 ประเภท ได้แก่ อันเดอร์ไรเตอร์ ดีลเลอร์ โบรกเกอร์ และที่ปรึกษา และยังได้อธิบายข้อกำหนดด้านเงินแต่ละระดับที่มึความแตกต่างกันของการให้บริการดังกล่าว โดยผู้ให้บริการเหล่านี้ยังได้รับการอนุมัติให้สามารถดำเนินงานร่วมกับบริษัทต่างชาติภายใต้การร่วมทุน เพื่อที่จะเร่งการให้บริการของตลาดหุ้นของประเทศ
ด้วยเงินทุน 3.2 หมื่นล้านจ๊าด หรือกว่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นย่างกุ้งจะให้บริการภายใต้การร่วมทุนระหว่างเมียนมาร์ ญี่ปุ่น และธนาคารเมียนมาร์ อิโคโนมิค แบงก์ ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนหุ้น 51% ไดวา อินสทิทิว ออฟ รีเสิร์ช 30.25% และเจแปน เอ็กซ์เชงจ์ กรุ๊ป 18.75% สำนักข่าวซินหัวรายงาน