ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษ ปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย. ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,752.93 จุด ลดลง 30.86 จุด หรือ -0.45%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษ ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับสถาบันการจัดซื้อและซัพพลายแห่งประเทศอังกฤษ (CIPS) นั้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.4 ในเดือนพ.ย. จาก 54.2 ในเดือนต.ค. ซึ่งผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 54.5
รายงานระบุว่า บรรดาโรงงานต่างๆ ต้องรับมือกับต้นทุนที่ทะยานขึ้น อันเนื่องมาจากเงินปอนด์ร่วงลงอย่างมาก หลังอังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ขณะที่การอ่อนค่าของเงินปอนด์ไม่สามารถช่วยกระตุ้นยอดส่งออกได้มากเหมือนกับในเดือนก่อนๆ
หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคปรับตัวลง โดยหุ้นยูนิลีเวอร์ ดิ่งลง 3.1% หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ร่วงลง 1.8% และหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ปรับตัวลง 1.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นขานรับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 1.9% และหุ้นริโอ ทินโต พุ่งขึ้น 1.3%