ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง ภายหลังจากที่นักลงทุนรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการเจรจาเรื่องนโยบายการค้าและเศรษฐกิจระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐและรองนายกรัฐมนตรีจีนในวันนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,213.98 จุด ลดลง 509.90 จุด, -1.66% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,856.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.16 จุด, +0.22% ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (3 พ.ค.) เนื่องในวันระลึกรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และการปรับตัวของเศรษฐกิจได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
เฟดระบุว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง ส่วนการขยายตัวของการจ้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น มีความแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า อัตราการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนอยู่ในระดับปานกลาง หลังจากมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4 ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง
สำหรับความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นเอเชียนั้น เสี่ยวหมี่ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน นำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเสี่ยวหมี่ถือเป็นบริษัทใหญ่รายแรกที่นำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกงภายใต้กฎระเบียบใหม่ และคาดว่าจะเป็นการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2557
ทั้งนี้ แม้บริษัทไม่ได้ระบุว่าต้องการจะระดมทุนเป็นจำนวนมากเท่าใดในการออกหุ้น IPO แต่มีการคาดการณ์ว่า เสี่ยวหมี่จะระดมทุนได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะทำให้มูลค่าทางธุรกิจของเสี่ยวหมี่อยู่ในระดับสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์
ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการเจรจาด้านการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ โดยสื่อจีนระบุว่า ทางการจีนพร้อมที่จะตอบโต้การคุกคามทางการค้าจากสหรัฐหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ จะเข้าร่วมประชุมเป็นเวลา 2 วันกับเจ้าหน้าที่ของจีนที่กรุงปักกิ่ง โดยการประชุมจะเริ่มขึ้นวันแรกในวันนี้
ทั้งนี้ แม้มีการคาดการณ์ว่า มีโอกาสไม่มากนักที่การเจรจาในช่วง 2 วันนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของจีน แต่หลายฝ่ายก็คาดหวังว่า จีนอาจจะออกมาตรการระยะสั้น เพื่อผลักดันให้สหรัฐเลื่อนเวลาการตัดสินใจใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์