ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 20% หลังจากที่พุ่งขึ้น 24% ในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,010.96 จุด ลดลง 53.40 จุด หรือ 0.21%
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการความบันเทิงบนอินเทอร์เน็ต ทรุดตัวลงมากกว่า 13% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์เปิดเผยว่า จำนวนผู้ใช้บริการในสหรัฐเพิ่มขึ้น 670,000 รายในไตรมาส 2 ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านราย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ใช้บริการในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.23 ล้านรายในไตรมาส 2 ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5.11 ล้านราย
นอกจากนี้ หุ้นอื่นๆในกลุ่ม FANG ก็ได้ร่วงลงในการซื้อขายวันนี้เช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวลง 0.8% ขณะที่หุ้นอเมซอนดิ่งลงเกือบ 1% ส่วนหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล อ่อนตัวลง 0.7%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนับเป็นหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวดีที่สุดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในปีนี้ โดยได้ทะยานขึ้นเกือบ 15%น
โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรพุ่งขึ้น 44% สู่ระดับ 2.57 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจวาณิชธนกิจ และการซื้อขายตราสารหนี้
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 5.98 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.66 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ธนาคารมีรายได้ 9.4 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.74 พันล้านดอลลาร์
ยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขกำไรพุ่งขึ้นราว 28% ในไตรมาส 2
ทั้งนี้ ยูไนเต็ดเฮลท์ ระบุว่า บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.92 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.98 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 2.28 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.32 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยูไนเต็ดเฮลท์ ยังระบุว่า บริษัทมีรายได้ 5.609 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 5.005 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจยา ขณะที่ธุรกิจสินค้าเพื่อผู้บริโภคประสบภาวะย่ำแย่
ทั้งนี้ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า บริษัทมีกำไร 2.10 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.039 หมื่นล้านดอลลาร์
ธุรกิจสินค้าสำหรับเด็กนับเป็นจุดอ่อนของบริษัท โดยมียอดขายทั่วโลกลดลง 7.7% ขณะที่ยอดขายในสหรัฐทรุดตัวลง 21%