ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ นลท.จับตาเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ,สถานการณ์ Brexit

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 8, 2019 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการที่อังกฤษจะจัดการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 15 ม.ค.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.15% ปิดที่ระดับ 342.88 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,747.81 จุด ลดลง 19.88 จุด หรือ -0.18% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,719.17 จุด ลดลง 17.94 จุด หรือ -0.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,810.88 จุด ลดลง 26.54 จุด หรือ -0.39%

นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ โดยทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา, ข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทหัวเว่ยมีการจารกรรมข้อมูล, ยุทธศาสตร์ของจีนในการเป็นผู้นำภาคการผลิตขั้นสูงที่สหรัฐมองว่าไม่เป็นธรรม, ข้อตกลงด้านพลังงาน, ข้อตกลงเรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรและยานยนต์จากสหรัฐ และการยกระดับสิทธิในการเข้าถึงของธนาคารต่างชาติในจีน

สำนักข่าว BBC รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลอังกฤษว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะจัดการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 15 ม.ค.

ทั้งนี้ หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำข้อตกลง Brexit ในการลงมติในสัปดาห์หน้า ก็จะทำให้อังกฤษเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยอาจส่งผลให้นางเมย์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และอาจต้องมีการยุบสภาสามัญชนเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่อังกฤษมีกำหนดแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.

หุ้นเซนทริกา พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ ร่วงลง 5% ขณะที่หุ้นอินเตอร์คอนทิเนนทัล โฮลเทลส์ กรุ๊ป ดิ่งลง 3%

ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทซูเปอร์มาร์เก็ต ดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นเจ เซนส์บิวนี พุ่งขึ้น 3% หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้นเกือบ 2 และหุ้นดับเบิลยู มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ดีดตัวขึ้นกว่า 1%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีรายงานว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลง 1% ในเดือนพ.ย. โดยการร่วงลงของคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีได้รับผลกระทบจากการดิ่งลง 11.6% ของคำสั่งซื้อจากประเทศในยูโรโซน

อย่างไรก็ดี คำสั่งซื้อจากภายในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.4% ขณะที่คำสั่งซื้อจากประเทศนอกยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ