ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งในแดนบวกและลบ ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ขยายตัวขึ้น ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐตัดสินใจชะลอการทำข้อตกลงทางการค้ากับจีน และระบุว่า จะไม่ทำข้อตกลง นอกเสียจากว่า จีนจะกลับมาทำตามเงื่อนไขที่ได้เจรจาต่อรองไว้เมื่อต้นปีนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,348.52 จุด ลดลง 440.82 จุด, -1.59% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,223.36 จุด เพิ่มขึ้น 19.08 จุด, +0.09% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,645.74 จุด ลดลง 5.46 จุด, -0.33%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 2.5% และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยับขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 0.9% และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้เปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 5.2% ในเดือนเม.ย. แตะที่ระดับ 9.137 แสนล้านเยน หรือประมาณ 8.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในเดือนเม.ย. หลังจากที่ปรับตัวขึ้นเพียง 3.8% ในเดือนมี.ค.
ขณะที่สำนักงานสถิติของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเป็นรายปี
ส่วนตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 27.32 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการจ้างงานยังคงสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งอีกครั้ง
สำนักงานสถิติระบุว่า จำนวนคนว่างงานอยู่ที่ 1.145 ล้านคนในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือนพ.ค.นับตั้งแต่ปี 2543