ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 690.70 จุด รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มสุขภาพ,สหรัฐออกมาตรการสกัดโควิด-19

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 31, 2020 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจสุขภาพอย่างคึกคัก นำโดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ที่พุ่งขึ้นถึง 8% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะทำการทดลองวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้มาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีวงเงินสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนสปิดที่ 22,327.48 จุด พุ่งขึ้น 690.70 จุด หรือ +3.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,626.65 จุด เพิ่มขึ้น 85.18 จุด หรือ+3.35% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,774.15 จุด เพิ่มขึ้น 271.77 จุด หรือ+3.62%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขยายช่วงเวลาในการแนะนำให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ยังยืนยันความตั้งใจที่จะผลักดันให้มีการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งภายในเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย.นี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในวันที่ 1 มิ.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ลงนามในมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย

หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพพุ่งขึ้น นำโดยหุ้น J&J ซึ่งปิดตลาดทะยานขึ้น 8% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะทำการทดลองวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ในมนุษย์ในเดือนก.ย. โดย J&J ได้เตรียมลงทุนเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ร่วมกับสำนักงานพัฒนาและวิจัยยาชีวภาพขั้นก้าวหน้าของสหรัฐ (BARDA) ซึ่งขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ ในการร่วมกันวิจัยวัคซีนดังกล่าว

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธุรกิจสุขภาพนั้น หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นเมดโทรนิค ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ บวก 2.4% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.1% หุ้นโมลินา เฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 3% หุ้นซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป บวก 1.8%

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้นขานรับข่าวดังกล่าวเช่นกัน โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 6.4% หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 5.7% หุ้นมีแลน เอ็นวี ผู้ผลิตยา EpiPen ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง บวก 1.3% หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 3.03% หุ้น Abbvie พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ทะยานขึ้น 7.28%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นด้วย นำโดยหุ้นไมโครซอฟท์ ทะยานขึ้น 7.03% หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นแอปเปิล บวก 2.8% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 3.36% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.8% หุ้นอินเทล ทะยานขึ้น 5.96% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 3.2% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 3.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.พ., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ