ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชะงักงันของยูโรโซน หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศในยุโรป นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรปด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.15% ปิดที่ 365.09 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,764.80 จุด ลดลง 65.20 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,896.33 จุด ลดลง 14.91 จุด หรือ -0.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,001.89 จุด ลดลง 11.45 จุด หรือ -0.19%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนีซึ่งถูกกดดันจากการที่ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนี ลดลงสู่ระดับ 53.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.3 ในเดือนก.ค.
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลงด้วยเช่นกัน หลังไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศส ลดลงสู่ระดับ 51.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 57.3 ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน อยู่ที่ 51.6 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป ซึ่งอาจจะทำให้มีการจำกัดกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้น
หุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจลดลงตามกัน อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มน้ำมันและก๊าซ และกลุ่มรถยนต์
หุ้นเปอโยต์, หุ้นโซซิเอเต เจเนอราล และหุ้นลอรีอัลของฝรั่งเศส ร่วงลง 2.05%, 1.98% และ 1.83% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเดมเลอร์, หุ้นคอนติเนนตัล และหุ้นเมิร์คของเยอรมนี ร่วงลง 1.98%, 1.42% และ 1.37% ตามลำดับ ส่วนหุ้นเชลล์และหุ้นบีพีของอังกฤษปรับตัวลง 0.64% และ 1.23% ตามลำดับ