ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากติดลบ 3 วันติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.67% ปิดที่ 367.97 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,100.28 จุด เพิ่มขึ้น 257.62 จุด หรือ +2.01%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,053.72 จุด เพิ่มขึ้น 88.65 จุด หรือ +1.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,937.40 จุด เพิ่มขึ้น 138.32 จุด หรือ +2.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนเกี่ยวกับข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยมีรายงานว่าออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนโควิดล็อตแรกในเดือนม.ค. 2564 หลังทำข้อตกลงกับบริษัทซีเอสแอลเพื่อผลิตวัคซีน 2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า และมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด และอีกตัวหนึ่งพัฒนาโดยซีเอสแอลร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนสแลนด์
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 4% และหนุนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์บวกขึ้นกว่า 2%
หุ้นซาโนฟีของฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 2.4% หลังเปิดเผยว่าวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์นของอังกฤษมีแนวโน้มที่จะมีราคาต่ำกว่า 10 ยูโร
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น หลังนักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกนระบุว่า แนวโน้มโดยรวมสำหรับการผลิตรถยนต์ในยุโรปเป็นไปอย่างสดใส หลังจากการประชุมกับกลุ่มผู้นำอุตสาหกรรม
หุ้นกลุ่มประกันภัย, กลุ่มการเงิน และกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมปรับตัวขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของโรคโควิด-19
จีนเปิดเผยข้อมูลยอดส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบปีครึ่งในเดือนส.ค. ขณะที่เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น แต่น้อยกว่าคาดในเดือนก.ค.