ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับผลประกอบการแกร่ง,บิตคอยน์ทุบนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 20, 2021 21:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์

ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,589.96 จุด บวก 132.65 จุด หรือ 0.37%

บิตคอยน์พุ่งขึ้นสู่ระดับ 66,299 ดอลลาร์ในวันนี้ ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 64,895 ดอลลาร์ ขานรับการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์กวานนี้

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ กล่าวว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

ขณะนี้ บริษัทจำนวน 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวของกำไรรายไตรมาสสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของบริษัทในดัชนี S&P 500 นับตั้งแต่ปี 2553

นายทอม ลี นักวิเคราะห์จากบริษัทฟันด์สแตรทส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงสามารถพุ่งขึ้นอีก 6% จนถึงสิ้นปีนี้ แม้ว่าขณะนี้ราคาหุ้นได้ดีดตัวขึ้นมากแล้ว

นายลียังได้ปรับเพิ่มตัวเลขเป้าหมายดัชนี S&P 500 สู่ระดับ 4,800 ในปีนี้ โดยระบุถึงการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนลดลง

"เราเชื่อว่านักลงทุนกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิค เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันกำลังส่งสัญญาณทิศทางตลาดที่แข็งแกร่งขึ้น" นายลีกล่าว

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดวานนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วัน ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.

การพุ่งขึ้นของดัชนีทั้ง 3 วานนี้ ทำให้ขณะนี้ดัชนีดังกล่าวกำลังเข้าใกล้สถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยดัชนีดาวโจนส์อยู่ห่างจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียง 0.49% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq อยู่ห่างราว 0.58% และ 1.78% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก "Stock Trader's Almanac" ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักฟื้นตัวขึ้นในเดือนต.ค. และปรับตัวขึ้นจนถึงสิ้นปี โดยเดือนต.ค.ถือเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงขาขึ้นตามฤดูกาลของราคาหุ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.8% ในเดือนต.ค. ก่อนที่จะพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. และ 1.5% ในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ