ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และบรรยากาศการซื้อขายยังถูกกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 502.38 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.64%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,016.65 จุด ลดลง 75.21 จุด หรือ -0.93%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,917.28 จุด ลดลง 171.42 จุด หรือ -0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,078.86 จุด เพิ่มขึ้น 38.48 จุด หรือ +0.48%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงระหว่างวันมากถึง 1.3% โดยปรับตัวตามการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ขยายตัวในอัตราชะลอตัวที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี แต่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.8% โดยหุ้นแอดเยน (Adyen) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินของเนเธอร์แลนด์ ดิ่งลง 18.4% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด และนักวิเคราะห์วิตกกับการเก็บค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มร่วงลง 1.1% โดยหุ้นเนสท์เล่ของสวิตเซอร์แลนด์ร่วง 2% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 1% ตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ หลังเมตา แพลตฟอร์มส ระบุว่า การลงทุนครั้งใหญ่ในด้าน AI อาจจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างผลกำไร
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา ร่วงลง 1.7% โดยหุ้นแอร์เมส ร่วง 2.4% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร แม้บริษัทรายงานยอดขายไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 17% ก็ตาม ขณะที่หุ้นแอลวีเอ็มเอช และหุ้นริชมอนด์ ร่วงลง 2.8% และ 1.2% ตามลำดับ