หุ้นจีนในประเทศ (Onshore China shares) ซึ่งเคยตามหลังหุ้นในภูมิภาคในช่วงครึ่งปีแรก ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 และทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 10 ปีในเดือนนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่งขึ้น 12% ขณะที่ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้น 9% แล้วในเดือนนี้
มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) เปิดเผยรายงานเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ระบุว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกเพิ่มการลงทุนในหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการซื้อหุ้นในเดือนส.ค.นี้จะเป็นการซื้อสุทธิรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
นักวิเคราะห์ระบุว่า สภาพคล่องสูงและความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นของตลาด
มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า การซื้อหุ้นโดยกองทุนเฮดจ์ฟันด์เน้นไปที่หุ้น A-shares ในตลาดจีนนับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. ซึ่งต่างจากการไหลเข้าของเงินทุนไปยังตลาดหุ้นฮ่องกงซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ในเดือนก.พ. หลังมีรายงานความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัทดีปซีค (DeepSeek)
เมื่อพิจารณาตามกลุ่มธุรกิจ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มอุตสาหกรรมดึงดูดเงินทุนเข้ามามากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตที่จดทะเบียนในฮ่องกงถูกขายออกมาผ่านการลดสถานะซื้อและการขายชอร์ต
มอร์แกน สแตนลีย์ประมาณการว่า กองทุนหุ้นระยะยาว-ระยะสั้นที่เน้นลงทุนในจีนปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 3% ในเดือนนี้จนถึงวันที่ 22 ส.ค. ทำให้ผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีเพิ่มเป็น 13.5%