ราคาหุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนี พุ่งขึ้น 5.7% ในวันนี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดเผยว่า กำไรจากการดำเนินงานดิ่งลง 70% ในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ระดับ 750 ล้านยูโร ลดลงอย่างมากจากระดับ 2.5 พันล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าประหยัดค่าใช้จ่าย 5 พันล้านยูโรภายในปี 2570
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ราคาหุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์พุ่งขึ้นในวันนี้ แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนมองว่ากำไรที่ดิ่งลงในไตรมาส 3 เกิดจากปัจจัยเพียงชั่วคราว ซึ่งจะไม่กระทบต่อแนวโน้มในระยะยาว
นอกจากนี้ ตลาดตอบรับต่อแผนการของฝ่ายบริหารในการปรับโครงสร้างบริษัท รวมทั้งมาตรการในการปรับลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมีภาพลักษณ์ในการเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับหรูหรา และยังคงได้รับความนิยมในระดับสูง โดยเฉพาะในตลาดจีน