ออราเคิล (Oracle) ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ เผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายและกำไรต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงทันทีกว่า 11.53% ในช่วงการซื้อขายนอกเวลาทำการเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) โดยสาเหตุหลักมาจากการทุ่มงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่พุ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเม็ดเงินลงทุนมหาศาลนี้อาจยังไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ทันใจอย่างที่วอลล์สตรีทหวัง
สถานการณ์การเงินของออราเคิลดูจะไม่สู้ดีนัก เมื่อตัวเลขสำคัญหลายรายการพลาดเป้าที่นักวิเคราะห์วางไว้ เริ่มจากผลประกอบการไตรมาส 2 (สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2568) บริษัทมีรายได้รวม 1.606 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งสองตัวเลขต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 3 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้นที่ 1.64-1.68 ดอลลาร์ และรายได้จะเติบโตราว 16-18% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ก็ยังต่ำกว่าเพดานที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ทั้งสิ้น รวมไปถึงยอดขายธุรกิจคลาวด์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญก็คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายของตลาดเช่นกัน
ประเด็นที่สร้างความกังวลมากที่สุดคือรายจ่ายฝ่ายทุน (Capex) สำหรับปีงบการเงิน 2569 ที่ผู้บริหารระบุว่าน่าจะสูงกว่าตัวเลข 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่บริษัทประเมินไว้เมื่อเดือนก.ย. ถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า แม้ราคาหุ้นออราเคิลจะพุ่งแรงเมื่อเดือนก.ย. แต่รายได้ที่พลาดเป้าหนนี้ยิ่งตอกย้ำความกังวลของนักลงทุนเรื่องดีลกับโอเพนเอไอ (OpenAI) และการทุ่มงบด้าน AI อย่างดุเดือด โดย Capex ที่พุ่งสูงและความต้องการก่อหนี้ที่ไม่ชัดเจน กำลังสร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุน
แม้บริษัทจะมียอดสัญญาคลาวด์ในอนาคตสูงถึง 5.23 แสนล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 14.94% จากดีลใหญ่กับโอเพนเอไอ) แต่ตัวเลขนี้ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้เล็กน้อย
เพื่อคลายความกังวลเรื่องเงินทุน เคลย์ มาเกวิร์ก ซีอีโอของออราเคิล ได้ชี้แจงแนวทางบริหารจัดการต้นทุนสร้างศูนย์ข้อมูล โดยระบุว่าบริษัทกำลังใช้โมเดลธุรกิจใหม่ ๆ
"เรากำลังทำโมเดลอื่นที่น่าสนใจอยู่ หนึ่งในนั้นคือลูกค้าสามารถนำชิปของตนเองมาใช้ได้ และในโมเดลเหล่านั้น ออราเคิลไม่จำเป็นต้องแบกรับรายจ่ายฝ่ายทุนล่วงหน้าแต่อย่างใด" มาเกวิร์กกล่าว พร้อมเสริมว่ายังมีโมเดลที่ผู้ขายบางรายสนใจจะเช่าความจุมากกว่าขายขาด
ทั้งนี้ ไตรมาส 2 ออราเคิลทำกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วได้ 2.26 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่บริษัทชี้แจงว่ากำไร (ทั้งแบบปรับปรุงและไม่ปรับปรุง) ที่สูงขึ้นนี้ เป็นผลจากกำไรพิเศษก่อนหักภาษี 2.7 พันล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นในบริษัทออกแบบชิป แอมแปร์ คอมพิวติง (Ampere Computing)
แลร์รี เอลลิสัน ประธานกรรมการออราเคิลกล่าวว่า บริษัทตัดสินใจขายหุ้นแอมแปร์เพราะต้องการวางตัวเป็นกลางเรื่องการเลือกใช้ชิปในศูนย์ข้อมูล และระบุว่า "เรามองว่าการออกแบบ ผลิต และใช้ชิปของตัวเองในศูนย์ข้อมูลคลาวด์ ไม่ใช่กลยุทธ์สำคัญของเราอีกต่อไป"
เอลลิสันยืนยันว่าแม้จะยังซื้อชิปของอินวิเดีย (Nvidia) ต่อไป แต่บริษัทต้องพร้อมติดตั้งชิปทุกประเภทตามความต้องการลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ออราเคิลกำลังสร้างศูนย์ข้อมูลให้โอเพนเอไอ ซึ่งมีข่าวว่ากำลังพัฒนาชิป AI ร่วมกับบรอดคอม (Broadcom)