"ตีตี โกลบอล" จ่อถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐตามข้อเรียกร้องจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 3, 2021 11:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัทตีตี โกลบอล อิงค์ (Didi Global Inc) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถรับส่งสัญชาติจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจะถอนตัวออกจากการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินหน้าใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลไปยังสหรัฐ เนื่องจากความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างจีนและสหรัฐนั้น แทบจะไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการผ่อนคลายลง

บริษัทตีตี โกลบอลได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อเดือนพ.ย.ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลธุรกิจเทคโนโลยีของจีนได้เรียกร้องให้บริษัทตีตี โกลบอล ถอนตัวออกจากการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลจีนมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการรั่วไหลของข้อมูลที่อ่อนไหว

ข้อเรียกร้องดังกล่าวของทางการจีนยังครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ตีตี โกลบอล เข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังจากถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า จีนยังคงเดินหน้าควบคุมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ปีนี้ รัฐสภาจีนผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Protection Law - PIPL) เพื่อกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกับบริษัทที่เก็บข้อมูลและจัดการข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยการผ่านกฎหมาย PIPL ฉบับนี้ อาจส่งผลกระทบต่อแนวทางการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีของจีน

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จีนออกกฎหมาย PIPL เพื่อกำหนดกฎระเบียบในการจัดเก็บข้อมูล การกำหนดกระบวนการ และการป้องกันข้อมูล โดยกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา กฎหมาย PIPL กำหนดว่า บริษัทที่ประมวลผลข้อมูลไม่สามารถปฏิเสธการให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่ยินยอมให้เก็บข้อมูลของพวกเขา นอกเสียจากว่า ข้อมูลนั้นจำเป็นต่อการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการ นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับการโอนข้อมูลของพลเมืองจีนออกนอกประเทศ โดยหากบริษัทใดละเมิดกฎหมายดังกล่าวจะต้องได้รับโทษปรับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ