นลท.ต่างชาติทุบขายหุ้นจีนสูงถึง 2.2 พันล้านดอลล์ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 31, 2022 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนคิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความกังวลที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง

ข้อมูลซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นผ่านทางระบบเทรดดิงลิงก์เป็นมูลค่าสูงถึง 1.5 หมื่นล้านหยวน (2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเม็ดเงินไหลออกจากตลาดมากที่สุดในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สงครามยูเครนส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดและยังเป็นช่วงที่นครเซี่ยงไฮ้เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์

ส่วนเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิในช่วงเดือนเม.ย. และเดือนพ.ค.อยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านหยวน และ 5 พันล้านหยวนตามลำดับ เทียบกับเม็ดเงินไหลเข้ารายเดือนเฉลี่ยในปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านหยวน

นักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนต่างชาติกำลังดูหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจผ่านการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ก่อนที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง โดยแม้ว่านักวิเคราะห์และบรรดาผู้จัดการกองทุนเริ่มมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นจีน แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันข้างหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะไม่ได้ฟื้นตัวในลักษณะ V-shape เหมือนกับในปี 2563

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว นักลงทุนต่างชาติจะซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนผ่านทางเทรดดิงลิงก์ในฮ่องกง โดยตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงได้ร่วมกันจัดตั้งระบบ Shanghai-Hong Kong Connect ในปี 2557 ขณะที่ตลาดหุ้นเซินเจิ้นเริ่มเปิดระบบดังกล่าวในช่วงปลายปี 2559 เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงหุ้นจีนได้ง่ายขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ