ดอลลาร์อ่อนค่าเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความไม่แน่นอน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในวันนี้ (21 พ.ค.)
ณ เวลา 20.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.40% สู่ระดับ 99.63 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.38% สู่ระดับ 1.133 เทียบยูโร และร่วงลง 0.50% สู่ระดับ 143.77 เยน
ทั้งนี้ นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรอาจทำการลงมติต่อร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในวันนี้ ก่อนวันหยุด Memorial Day ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางให้วุฒิสภาพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในเดือนมิ.ย.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางไปยังรัฐสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อโน้มน้าวสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ปธน.ทรัมป์พยายามผลักดันผ่านสภาคองเกรส
สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายกลุ่มแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยเรียกร้องให้มีการเพิ่มเพดานการหักภาษีของมลรัฐและท้องถิ่น (SALT) สู่ระดับ 40,000 ดอลลาร์ สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 500,000 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อเป็นการเอาใจฐานเสียงพรรครีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีสูง
ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียภาษีในสหรัฐยื่นแบบแสดงภาษีรายได้ต่อกรมสรรพากร พวกเขาสามารถหักภาษีที่จ่ายให้กับมลรัฐและท้องถิ่นออกจากรายได้พึงประเมิน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐบาลกลาง
ก่อนหน้านี้ ในปี 2560 ภายใต้กฎหมายปฏิรูปภาษีของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก กฎหมายดังกล่าวได้จำกัดการหักภาษี SALT ไว้ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งได้กระทบต่อประชาชนในรัฐที่มีภาษีสูง เช่น แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหักภาษีท้องถิ่นได้เต็มจำนวนอีกต่อไป
ร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติในวันนี้ ถือเป็นการสานต่อกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานสำคัญของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์