สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (30 มิ.ย.) โดยดอลลาร์ถูกกดดันจากความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณ รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้ารายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.54% แตะที่ระดับ 96.875
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.20 เยน จากระดับ 144.70 เยนในวันศุกร์ (27 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7934 ฟรังก์ จากระดับ 0.7998 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3625 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3715 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1776 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1700 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3718 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3697 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาการลงมติร่างกฎหมายการปรับลดภาษีและการใช้จ่ายขนานใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวุฒิสภา โดยหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ร่างกฎหมายดังกล่าวก็จะถูกส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนที่จะส่งให้ปธน.ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมาย
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ต้องการให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อนวันหยุดในวันที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ แม้นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักรลงจากระดับ 25% สู่ระดับ 10% ขณะเดียวกันสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงในการเร่งรัดการส่งออกแร่หายากจากจีนมายังสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
ทางด้านแคนาดาได้ประกาศยกเลิกการเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) เพื่อหวังผลักดันให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เดินหน้าต่อไปได้ โดยก่อนหน้านี้ แคนาดามีกำหนดเริ่มเก็บภาษีดังกล่าวในจันทร์ที่ 30 มิ.ย. โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 3% จากรายได้ของบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน ได้แก่ อะเมซอน (Amazon), กูเกิล (Google) และเมตา (Meta) ที่ได้รับจากผู้ใช้งานในแคนาดา
อย่างไรก็ดี สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนว่าประเทศต่าง ๆ จะยังคงเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้นในวันที่ 9 ก.ค. แม้ประเทศเหล่านี้กำลังพยายามเจรจาต่อรอง ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายเวลาการผ่อนปรนมาตรการภาษีนั้น จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือนมิ.ย.จาก ADP และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 4.2% ในเดือนพ.ค.