สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลื่อนเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.40% แตะที่ระดับ 97.135
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 145.075 เยน และแข็งค่า 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7955 ฟรังก์
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.175350 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 111,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3%
นักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดอาจลดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนก.ค. และให้น้ำหนัก 68% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 74% ที่ให้น้ำหนักไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.99 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.03 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 3.9% ในเดือนเม.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 241,000 ราย
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" หรือร่างกฎหมายปรับลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายขนานใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ขณะที่สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เตือนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์