สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 ก.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 98.080
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.76 เยน จากระดับ 147.45 เยนในวันศุกร์ (11 ก.ค.), แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7979 ฟรังก์ จากระดับ 0.7972 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3700 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3675 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1670 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1689 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3428 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3509 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.439% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะปรับตัวขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ค.