สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (25 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจใช้เวลานานขึ้นก่อนกลับมาลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่การเจรจาภาษีศุลกากรมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.27% แตะที่ระดับ 97.642
ดอลลาร์สหรัฐซื้อขายที่ 147.56 เยนญี่ปุ่นในวันศุกร์ (25 ก.ค.) แข็งค่าขึ้นจาก 146.92 เยนในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.), ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 0.7948 ฟรังก์สวิส จาก 0.7944 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าแตะ 1.3710 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3640 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.1745 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1766 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่ปอนด์อังกฤษลดลงสู่ 1.3435 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.3516 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ดอลลาร์ฟื้นตัวได้บ้างในช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังจากถูกกดดันเมื่อต้นสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาด ซึ่งสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 227,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังปรับลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง
แม้ดอลลาร์ฟื้นตัว แต่ยังคงลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางการเจรจาภาษีศุลกากรและการประชุมธนาคารกลางที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าหลังข้อมูลยอดค้าปลีกอังกฤษต่ำกว่าคาด ทั้งเฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่เทรดเดอร์จับตาถ้อยแถลงหลังการประชุมเพื่อประเมินความเคลื่อนไหวครั้งถัดไป
เฟดจะประชุมวันที่ 29-30 ก.ค. และ BOJ จะประชุมในวันที่ 30-31 ก.ค.