ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่าตามทิศทางบอนด์ยีลด์ จับตาจ้างงานสหรัฐฯ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 3, 2025 07:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (2 ก.ย.) โดยปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.69% แตะที่ระดับ 98.382

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.28 เยน จากระดับ 147.22 เยนในวันศุกร์ (29 ส.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8038 ฟรังก์ จากระดับ 0.8010 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3780 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3752 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1645 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1708 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3386 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3544 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากร

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) คณะผู้พิพากษาของศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ มีมติ 7 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยว่าภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเพียงสภาคองเกรสเท่านั้นที่มีอำนาจในการกำหนดการจัดเก็บภาษีในวงกว้าง

การตัดสินของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐอาจต้องคืนเงินภาษีที่เรียกเก็บไปแล้ว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมสถานะทางการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเอ็ด มิลส์ จากบริษัท Raymond James ระบุในรายงานว่า "หากคำตัดสินนี้มีผลบังคับใช้จริง จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องคืนเงินภาษีศุลกากรที่เก็บไปแล้ว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น"

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์แสดงความยินดีที่เงินจากการเก็บภาษีศุลกากรกำลังหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐ คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.) ขณะนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.7 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.0 จากระดับ 48.0 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. โดยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ