ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 ธ.ค.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ 98.147
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 154.68 เยน จากระดับ 155.24 เยนในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7946 ฟรังก์ จากระดับ 0.7966 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3746 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3773 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1758 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1749 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3426 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3373 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 64,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.58% ในปีหน้า ซึ่งมากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีหน้า
ส่วนข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 52.2 ในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนพ.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนก.ย.