ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันนี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกและข้อมูล PPI ที่ออกมาย่ำแย่กว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้
ณ เวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.84% แตะที่ 101.13 เยน ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.50% แตะที่ 1.1198 ดอลลาร์ ด้านเงินปอนด์ปรับขึ้น 0.06% แตะที่ 1.2997 ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเป็นส่วนสำคัญของการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐ ข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดนี้จึงบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาส 3 อาจชะลอตัวลง หลังจากที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.2% ในไตรมาส 2 และอาจส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และยังเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2558 หลังจากที่พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย.
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตจะปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
ข้อมูล PPI ล่าสุดบ่งชี้ให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดยังไม่สามารถรีบตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยได้