ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก วิตกข่าว FBI รื้อคดี "ฮิลลารี"

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 29, 2016 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐมีการขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.87 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 105.25 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9881 ฟรังค์ จากระดับ 0.9934 ฟรังค์

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0969 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0902 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2179 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2178 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7595 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากหลังจากมีรายงานข่าวว่า นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ได้ส่งหนังสือไปยังสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า FBI พบว่ามีอีเมล์ใหม่ของนางฮิลลารี ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม

ทั้งนี้ การเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ว่า FBI อาจจะรื้อฟื้นคดีดังกล่าวของนางฮิลลารีขึ้นมาใหม่ ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.

นายโคมีย์ระบุว่า มีการเปิดเผยอีเมล์ใหม่ดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาใหม่อีกครั้งต่อข้อมูลของรัฐบาลที่ความอ่อนไหว ซึ่งมีการส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของนางฮิลลารี ขณะที่ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ

ข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นสำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 2.9% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากแรงหนุนของการส่งออก และการลงทุนด้านสินค้าคงคลัง ถึงแม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง

การขยายตัวที่ระดับ 2.9% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1 ขณะที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 1.1% ในช่วงครึ่งปีแรก

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ