ดัชนีดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนในวันนี้ โดยถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่พุ่งขึ้นถึง 222,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในเดือนก.ค.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย.
ณ เวลา 17.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.12% สู่ระดับ 92.73 ส่วนดอลลาร์ขยับขึ้น 0.02% สู่ระดับ 110.04 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.11% สู่ระดับ 130.73 เยน และแข็งค่า 0.10% สู่ระดับ 1.1880 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงราว 0.6% ในสัปดาห์นี้ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนที่ระดับ 92.548
นอกจากนี้ ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับยูโร และระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยนในวันนี้
ดอลลาร์ถูกกดดันตลอดสัปดาห์นี้จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 44% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองสหรัฐก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์