ดอลลาร์พุ่งทะลุ 113 เยน เก็งเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค. แม้ตัวเลขจ้างงานทรุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 6, 2017 21:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์พุ่งทะลุระดับ 113 เยนในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ทรุดตัวลงในเดือนก.ย. แต่อัตราการว่างงาน และตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงของแรงงานยังคงบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ณ เวลา 21.07 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.52% สู่ระดับ 113.40 เยน ขณะที่ปรับตัวขึ้น 0.20% สู่ระดับ 1.1686 เทียบยูโร ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.19% สู่ระดับ 94.14

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นในวันนี้ จากการที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงในเดือนก.ย.ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆยังคงบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย.จะไม่ส่งผลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ ในการเปิดเผยตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ พบว่าเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ สู่ระดับ 26.55 ดอลลาร์ และเท่ากับพุ่งขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสูงกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด สิ่งนี้หมายความว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.387% หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 2.916% หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจในรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และอีกหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐต้องปิดกิจการ ส่งผลให้แรงงานจำนวนมากประสบภาวะตกงานชั่วคราว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%

มีการคาดการณ์กันว่า ตัวเลขการจ้างงานจะพุ่งขึ้นในเดือนต.ค.และพ.ย. จากการที่ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และบริษัทในภาคก่อสร้างทำการซ่อมแซม และบูรณะเขตที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 169,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 40,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 63.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ