ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงทันทีในวันนี้ หลังสื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หลังเกิดความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
ทางด้านปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความขอบคุณนายทิลเลอร์สันสำหรับการทำงานร่วมกันในรัฐบาล พร้อมกับโยกนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน และให้นางจีน่า แฮสเปล รองผอ.CIA ขึ้นเป็นผอ.CIA คนใหม่ โดยจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่รับตำแหน่งดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยน ใกล้แตะ 107 เยน จากการที่นายทาโร อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่น ยืนยันว่าตนจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้มีข่าวอื้อฉาวกรณีชื่อของนางอากิเอะ อาเบะ ภรรยาของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ถูกลบออกจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลขายที่ดินให้กับโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในราคาต่ำกว่าการประเมิน โดยโรงเรียนดังกล่าวดำเนินงานโดยนายโมริโตโม กาคุเอ็น ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางอาเบะ
ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.48% สู่ระดับ 106.92 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.81% สู่ระดับ 132.28 เยน และดีดตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 1.2372 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.19% สู่ระดับ 89.72
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ชะลอตัวลงในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และลดแรงกดดันในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ขยับขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 0.5% ในเดือนม.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนม.ค.
การชะลอตัวของดัชนี CPI ในเดือนก.พ.มีสาเหตุจากการร่วงลงของราคาน้ำมันเบนซิน ขณะที่ราคาอาหารทรงตัว
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 1.8% ในเดือนก.พ. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.7%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.