ดอลลาร์,สกุลเงินหลักแทบไม่ขยับ ก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 7, 2019 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์และสกุลเงินหลักต่างปรับตัวแคบในวันนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ณ เวลา 17.53 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.13% สู่ระดับ 108.54 เยน ขณะที่ยูโรบวก 0.02% สู่ระดับ 122.24 เยน และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 1.1263 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.04% สู่ระดับ 97.08

โดยผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าระดับ 189,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกเพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของผู้อพยพจากเม็กซิโก

สื่อรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก ในขณะที่การเจรจาของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แม้มีความเป็นไปได้ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ในวันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากสหรัฐเล็งเห็นว่า เม็กซิโกมีความพยายามอย่างจริงจังและดำเนินการอย่างรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เป็นข้อกังวลของปธน.ทรัมป์

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มิ.ย. แต่หากเม็กซิโกดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่จะสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ การเก็บภาษีดังกล่าวก็จะเป็นการดำเนินการเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ทางด้านนายมาร์เซลโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวว่า การเจรจาวานนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่เม็กซิโกและสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผู้อพยพเข้าสหรัฐโดยผิดกฎหมายนั้น ประสบความคืบหน้า

ทั้งนี้ นายเอบราร์ดและเจ้าหน้าที่เม็กซิโกกำลังอยู่ที่กรุงวอชิงตันในขณะนี้เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่สหรัฐ นำโดยนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ