ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการซื้อขายล็อตใหญ่ ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 22.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.05% สู่ระดับ 97.68 ส่วนดอลลาร์แข็งค่า 0.35% สู่ระดับ 108.55 เยน ขณะที่ยูโรพุ่งขึ้น 0.52% สู่ระดับ 121.12 เยน และดีดตัวขึ้น 0.15% สู่ระดับ 1.1156 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค. รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 30-31 ก.ค.เช่นกัน
นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายมนูชิน และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ จะเดินทางไปยังจีนในวันจันทร์หน้า เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีนในวันอังคารและวันพุธ
"เรามีประเด็นที่ต้องหารือมากมาย ผมคาดหวังว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้แล้ว เราจะมีการประชุมอีกครั้งที่วอชิงตัน ดีซี และหวังว่าเราจะยังคงมีความคืบหน้าต่อไป" นายมนูชินกล่าว
นายมนูชินยังกล่าวว่า การที่จีนเลือกสถานที่เจรจาเป็นนครเซี่ยงไฮ้ แทนที่จะเป็นกรุงปักกิ่ง ถือเป็นการสื่อความหมายที่ดี เนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่ซึ่งสหรัฐและจีนได้ลงนามในแถลงการณ์เซี่ยงไฮ้ในปี 2515 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน
ยูโรพลิกพุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และเยน หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ยูโรโซนมีความเสี่ยงต่ำที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเทียบดอลลาร์ในช่วงแรก หลังจากที่ ECB ส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย.
ทั้งนี้ นายดรากีกล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า การใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ยังคงมีความสำคัญ เพื่อรับประกันว่าสภาวะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และเอื้อต่อการขยายตัวของยูโรโซน
นายดรากียังระบุว่า กรรมการ ECB ทุกคนเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป แม้สมาชิกยังคงเห็นต่างเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินที่จะนำมาใช้
นอกจากนี้ นายดรากีกล่าวว่า ความเสี่ยงที่ยูโรโซนจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
"กรรมการบริหารของ ECB ได้มอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมระบบการเงินยุโรปทำการศึกษาทางเลือกต่างๆ ซึ่งรวมถึงแนวทางการชี้นำนโยบายการเงิน, การใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการกำหนดขนาดและองค์ประกอบของการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่" แถลงการณ์ของ ECB ระบุ
แถลงการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนก.ย.