ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อน วิตกล็อกดาวน์ยุโรป, ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 30, 2020 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเดือนหน้า นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรป เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1671 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1752 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2927 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2991 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7026 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7059 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.66 เยน จากระดับ 104.33 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9158 ฟรังก์ จากระดับ 0.9100 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3324 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3296 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะที่ระดับ 93.9493 เมื่อคืนนี้

ยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายในการประชุมเดือนธ.ค. พร้อมกับจับตาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ในยูโรป โดยรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีประกาศล็อกดาวน์บางส่วน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 33.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ และขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 32% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเริ่มมีการจ้างงาน หลังจากที่สหรัฐได้ปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 751,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 778,000 ราย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ