สมาคมผู้ผลิตแห่งอิสราเอล (MAI) จัดการประชุมฉุกเฉินวานนี้ หลังสกุลเงินเชเกลพุ่งใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีเทียบดอลลาร์ โดยแสดงความวิตกว่าการแข็งค่าเป็นประวัติการณ์ของเชเกลจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกและเทคโนโลยีขั้นสูงของอิสราเอล
ทั้งนี้ ค่าเงินเชเกลอยู่ที่ระดับ 3.275 ต่อ 1 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 และใกล้แตะระดับ 3.203 ที่ทำไว้ในเดือนต.ค.2539
นอกจากนี้ เชเกลได้แข็งค่าขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 และได้แข็งค่าเป็นเวลา 9 วันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์
"การส่งออกกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 รวมทั้งการแข็งค่าของเชเกล ซึ่งได้ฉุดการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" นายรอน โทเมอร์ ประธาน MAI กล่าว
นักวิเคราะห์ระบุว่า การแข็งค่าของเชเกลเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การอ่อนค่าของดอลลาร์ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารในทำเนียบขาวของสหรัฐ, การที่บริษัทไฮเทคของอิสราเอลทำการแลกเปลี่ยนเชเกล/ดอลลาร์เพื่อนำไปจ่ายภาษีและเงินเดือนให้แก่พนักงาน, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวอิสราเอลมีความต้องการน้อยลงสำหรับการซื้อสกุลดอลลาร์เพื่อเดินทางในต่างประเทศ รวมทั้งการที่อิสราเอลมีสกุลเงินตราต่างประเทศจำนวนมากจากการส่งออกก๊าซธรรมชาติ