เสียงเปิดแชมเปญอาจดังขึ้นในบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ซึ่งเป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
พรรคอนุรักษ์นิยมของนายจอห์นสันสามารถคว้า 364 ที่นั่งในสภาสามัญชน หรือสภาล่างของอังกฤษ ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 และมากกว่าเพดานเสียงข้างมากที่กำหนดไว้ที่ 326 ที่นั่งสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคอนุรักษ์นิยมเตรียมที่จะรวมตัวกันในสภาสัปดาห์นี้ เพื่อเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ดังที่ได้ให้สัญญาไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
แต่ถึงแม้จะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ซึ่งอาจแปลว่านายจอห์นสันจะมีอำนาจในรัฐสภาอังกฤษไปอีกศตวรรษ แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า นายจอห์นสันยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการในอนาคตข้างหน้า
"แม้พรรคของนายจอห์นสันจะได้รับเสียงข้างมาก แต่คาดว่าเขาคงได้เฉลิมฉลองกับความหอมหวานของชัยชนะเพียงไม่นาน" นายฟรานเซส โอ กราดี เลขาธิการทั่วไปของสภาสหภาพการค้าของอังกฤษ (TUC) กล่าว "หลังจากที่รัฐบาลล้มเหลวในความพยายามที่จะรัดเข็มขัดมา 9 ปี ความกดดันที่นายจอห์นสันต้องเผชิญในตอนนี้คือ รัฐบาลจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และอัดฉีดเงินลงทุนให้กับระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) และบริการสาธารณะได้หรือไม่"
นายโอ กราดี กล่าวว่า "นายบอริส จอห์นสันจะไม่มีข้ออ้างเรื่อง Brexit อีกต่อไป โดยในปีหน้า เขาจะต้องบรรลุข้อตกลงกับสภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการปกป้องแรงงาน สิทธิในการทำงาน และความสงบในไอร์แลนด์เหนือ"
หนังสือพิมพ์เดลี มิเรอร์ ซึ่งสนับสนุนพรรคแรงงาน ระบุว่า อังกฤษจะรอดูว่านายจอห์นสันจะเป็นนายกรัฐมนตรีแบบไหน หลังจากที่ได้รับเสียงข้างมากภายในสภา
"เขาจะสามารถสร้างสะพานเพื่อก้าวข้ามหุบเหวนี้ได้หรือไม่ ในกรณที่แรงงานจำนวนมากผิดหวังจากการลงคะแนนเสียงให้พรรคอนุรักษ์นิยม หรือกรณีที่แรงงานส่วนหนึ่งที่สนับสนุนพรรคอนุรักษ์นิยมอาจมีความรู้สึกผิดหวัง หากนายกรัฐมนตรีของอังกฤษหักหลังพวกเขา" หนังสือพิมพ์เดลี มิเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เดลี มิเรอร์ ยังได้ระบุอีกด้วยว่า การที่อังกฤษสนับสนุน NHS น้อยเกินไป, ปมปัญหา Brexit, ความสัมพันธ์ระยะยาวกับ EU, เหตุการณ์ฆาตกรรมด้วยมีดที่แพร่ระบาดในอังกฤษ, ปัญหาสิ่งแวดล้อม และความสัมพันธ์ที่นายจอห์นสันมีต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ คือความท้าทายหลักที่นายกรัฐมนตรีหมาด ๆ ต้องเผชิญ
ขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส กล่าวว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจหลายกลุ่มได้ออกมาเตือนว่า อังกฤษยังคงมีอุปสรรคในการลงทุน
สำหรับความท้าทายที่นายจอห์นสัน และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่ต้องเผชิญนั้น คือการแต่งตั้งผู้ที่จะมารับตำแหน่งแทนนายไมค์ คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงการร่างงบประมาณครั้งแรก การเร่งพัฒนาเศรษฐกิจหลังจากที่ชะลอตัวลง และอนาคตของ Brexit หลังจากที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ม.ค.
ภาคธุรกิจต่างก็คาดหวังว่า กระบวนการ Brexit ในเดือนม.ค.จะทำให้คณะรัฐมนตรีมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาความท้าทายต่างๆในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภายในประเทศ เช่นที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการกำหนดนโยบายคนเข้าเมืองในอนาคต และข้อบังคับต่างๆที่สอดคล้องกับกฎของ EU
นายทิม พิตต์ อดีตที่ปรึกษาการคลังพิเศษ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า อนาคตของพรรคอนุรักษ์นิยมขึ้นอยู่กับคะแนนโหวตในกลุ่มชนชั้นแรงงาน ซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐกิจในยุคของอดีตนายกรัฐมนตรีมากาเร็ต แทชเชอร์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของนายจอห์นสันหลังจากที่คว้าชัยชนะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เขาได้กล่าวขอบคุณประชาชนหลายหมื่นคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคอนุรักษ์นิยม
นายจอห์นสันกล่าวว่า "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้กับพวกเรา และกับตัวผม เราจะตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของประชาชน และทำความต้องการของประชาชนให้ประสบผลสำเร็จ ด้วยสภาที่ทำงานเพื่อประชาชน"
ทั้งนี้ ประชาชนชาวอังกฤษต่างก็จับตาและรอดูว่า นายจอห์นสันจะสามารถทำตามสัญญาและก้าวข้ามผ่านความท้าทายเหล่านี้ได้หรือไม่