ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันนี้ (1 พ.ค.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดย BOJ ระบุว่าเศรษฐกิจทั่วโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้น อันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้น
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรการ BOJ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเม.ย. จะขยายตัวเพียง 0.5% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.1% โดย BOJ เตือนว่าข้อพิพาททางการค้าอาจทำให้กำไรของบริษัทญี่ปุ่นชะลอตัวลง และจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอลงด้วย
ขณะเดียวกันคณะกรรมการ BOJ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารสด จะเพิ่มขึ้น 2.2% ในปีงบประมาณ 2568 ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4%
ทั้งนี้ BOJ คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2568
BOJ ได้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2551 โดยมีเป้าหมายที่จะปรับนโยบายการเงินสู่ระดับที่เป็นกลาง